เว็บไซต์โซเชียลมีเดียที่ใหญ่ที่สุดและใช้กันมากที่สุดสองแห่งคือ Facebook และ Instagram เผชิญกับความโกรธแค้นของรัฐบาลเนื่องจากมีการประท้วงอย่างต่อเนื่องเพื่อต่อต้านการเสื่อมสภาพของสิ่งแวดล้อม
มันไม่ใช่ครั้งแรกที่ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ตบ Facebook และ Instagram โดยมีการห้าม การห้ามถูกสร้างขึ้นเป็นเรื่องน่าประหลาดใจสำหรับผู้ใช้ 30 ล้านคนที่ใช้โซเชียลมีเดียเพื่อแจ้งข้อกังวลของพวกเขาเกี่ยวกับ 'การลดจำนวนปลาในน่านน้ำเวียดนาม' ด้วยเหตุนี้เปอร์เซ็นต์การใช้ VPN จึงเพิ่มขึ้นในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา
การย้ายเว็บไซต์โซเชียลมีเดียได้พบกับคำวิจารณ์อย่างรุนแรงจากผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมทั่วโลก
เป็นที่น่าสนใจที่จะทราบว่าจำนวนปลาที่ตายแล้วเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเนื่องจากของเสียจากอุตสาหกรรมที่เป็นพิษที่ถูกทิ้งในน่านน้ำ เมื่อสถานการณ์เลวร้ายลงประชาชนก็พากันออกไปตามถนนเพื่อประท้วงการเสื่อมสภาพของสิ่งแวดล้อมที่เห็นว่าประชากรของดอกสาหร่ายที่เป็นอันตรายจากการทิ้งขยะมูลฝอยในอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง
แท็กแฮชแท็ก 'I Choose Fish' มีแนวโน้มที่ตัวสั่นด้วยความตื่นเต้นเช่นกัน ภาพผู้ประท้วงที่มีใบปลิวที่อ่าน 'Justice 4 Fish' ได้แพร่ระบาดผ่านเว็บไซต์โซเชียลมีเดีย รัฐบาลในการประท้วงอย่างต่อเนื่องได้ตัดสินใจที่จะเกิดขึ้นกับหน้าของตัวเองในสื่อสังคมออนไลน์ที่มีแท็ก 'ข้อมูลรัฐบาล'
“ ฉันเลือกปลา” #Vietnam #Saigon #VietnamProtest pic.twitter.com/ej8Hpb4Wsq
- Dan Vineberg (@danvineberg) 1 พฤษภาคม 2559
เมื่อสถานการณ์เริ่มรุนแรงขึ้นคนทั่วไปก็เริ่มหันมาใช้บริการ VPN มากขึ้น มีการใช้ VPN ในประเทศอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน
ตาม Hola บริการพร็อกซีของอิสราเอลทั้ง Facebook และ Instagram ถูกบล็อกเมื่อวันอาทิตย์ในเวียดนาม ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่ได้ดาวน์โหลด Hola ท่ามกลางแบคแลชต่อต้านเว็บไซต์โซเชียลมีเดีย
บริษัท Sensor Tower ซึ่งเป็น บริษัท เพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บได้รายงานว่ามีผู้ใช้บริการ VPN บนมือถือเพิ่มขึ้นอย่างมากเนื่องจากผู้คนต้องการหลีกเลี่ยงการปิดกั้นเพื่อที่จะกระจายคำเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ประเทศกำลังเผชิญอยู่
มันยังไม่ชัดเจนว่าจะมีการแบนนานแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็นการสั่งห้ามเว็บไซต์โซเชียลมีเดียเพื่อควบคุมการประท้วงหรือไม่ก็เป็นการกำจัดเว็บไซต์โซเชียลมีเดียจากประเทศ